วันที่ 8-9 เมษายน 2564 นายนวนิตย์ พลเคน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นางสาวปานศิริ นิบุญธรรม นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ลงพื้นที่เพื่อสำรวจและประเมินเชิงประจักษ์เพื่อติดตั้งระบบเกษตรอัจฉริยะ (Handy Sense) ภายใต้โครงการความร่วมมือส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ "ระบบการบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ" ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดเชียงราย และ ศพก.สะเมิง อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ร่วมกับ ดร.สุรางค์ศรี วาเพชร ผู้อำนวยการกลุ่มภูมิปัญญาท้องถิ่นและนวัตกรรมด้านการเกษตร และคณะ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกและคอมพิวเตอร์แห่งชาติ โดยมี นายผจญ กสิปิยกุล ผู้อำนวยการศูนย์ ฯ เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด และอำเภอ ให้การต้อนรับ
สำหรับระบบเกษตรอัจฉริยะ Handy Sense เป็นอุปกรณ์ IoT และ application ในการควบคุมสภาพแวดล้อม ที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช ประกอบด้วย 4 เซนเซอร์และ 3 ฟังก์ชั่น ซึ่งมีมูลค่าการติดตั้ง 5,000 บาทต่อระบบ แต่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ กับแปลงเพาะปลูกได้ทุกขนาด ซึ่งเกษตรกรสามารถออกแบบระบบแปลงได้เอง ซึ่ง Handy Sense นี้จะใช้วัดสภาพแวดล้อมในการเพาะปลูก และควบคุมการให้น้ำสำหรับพืช ได้อย่างเหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างน้อย 20% โดยเฉลี่ย ซึ่งเกิดจากการลดต้นทุนการใช้ทรัพยากรและการเพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิต โดยปัจจุบันมีการติดตั้งอุปกรณ์ Handy Sense ทั่วประเทศแล้วจำนวน 77 แห่ง และคาดว่าจะขยายเป็น 200 แห่งได้ในปี 2565
จากการลงพื้นที่ พบว่าศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดเชียงราย และประธานศพก.สะเมิง อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ มีแปลงเรียนรู้และบุคคลากร ที่มีศักยภาพพร้อมพัฒนาความรู้ทักษะในการบริหารจัดการ ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลการบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วยระบบอัจฉริยะ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการผลิตสินค้าเกษตรได้อย่างเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ของชุมชน เพื่อยกระดับสู่การทําเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งเกษตรแบบแม่นยํา (Precision Agriculture) สามารถเป็นต้นแบบแปลงเรียนรู้การบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะได้