rnrnวันที่ 5 กันยายน 2567 เวลา 13.00 น. ศปภ. ภาคเหนือกรมส่งเสริมการเกษตร มอบหมายให้นางสาวนุชจารี วนาศิริ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการพิเศษ และนางสาวกนกขวัญ ปัญญาสิทธิ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ลงพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ติดตามโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่และสถานการณ์ภัยพิบัติด้านพืช พร้อมสอบถามประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ แนวทางการเตรียมความพร้อมรับมือ และสถานการณ์การเพาะปลูกพืชในพื้นที่ ทั้งนี้นางพรทิพย์ ศรีสมโภชน์ เกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ให้ข้อมูลถึงอาคาร สำนักงานเกษตรอำเภอ ในปีนี้ไม่มีความเสียหายหนักได้ให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อม รับฟังข่าวสารแจ้งเตือน และเตรียมขนย้ายเอกสาร ครุภัณฑ์ไว้ในพื้นที่ปลอดภัย สำหรับแนวทางการปฏิบัติงานและถ่ายทอดข้อสั่งการของ อธส. และ ผอ.สสก. 6 จ.เชียงใหม่ ไปสู่อำเภอและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ให้เร่งสำรวจพื้นที่เสียหายจากอุทกภัย เมื่อระดับน้ำลดลงแล้ว และดำเนินการตามขั้นตอนการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนตามแผนลงพื้นที่และแล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลา ซึ่งการบริหารจัดการอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ และการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อำเภอ อปท. ผู้นำชุมชน อกม. ปภ.ไม่มีปัญหาอุปสรรค สามารถดำเนินการได้ตามแผน โดยจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติด้านอุทกภัยใน 3 อำเภอ (อ.พิชัย ตรอน และฟากท่า) พืชที่เสียหาย ข้าว และมันสำปะหลัง ซึ่งการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่อ.พิชัย ที่มีพื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 3,822ไร่ เกษตรกร 376 ราย (รับ กษ 01 ตรวจสอบการขึ้น ทบก. แล้ว) การเข้าพื้นที่เพื่อติดตามความเสียหาย ณ สถานการณ์ปัจจุบัน - ม. 4 ต.นายาง อ.พิชัย พื้นที่นาข้าว 400 ไร่ ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ปัจจุบันระดับน้ำได้ลดลงแล้ว ต้นข้าวสามารถฟื้นฟูได้ และแนะนำให้ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาช่วยลดการเกิดโรครากเน่าโคนเน่า แต่ทั้งนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำจากต.ท่าสักที่จะเข้าพื้นที่ด้วย-ม.4 ต.นาอิน อ. พิชัย ผู้ให้ข้อมูล นายกำพล เงินพล ผู้ใหญ่บ้าน ม. 4 กล่าวว่า ข้าวที่ปลูกพื้นที่ 200 ไร่ อายุข้าวประมาณ 2 เดือน ถูกน้ำแช่ขังและไม่ลดลงมานาน 1 สัปดาห์แล้ว เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้เป็นจุดรับน้ำ และเขตติดต่ออ.พรมพิราม จ.พิษณุโลก เกิดความเสียหายทุกปี เกษตรจังหวัดและหัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต จึงแนะนำให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนชนิดพืช หรือปรับเปลี่ยนปฏิทินการเพาะปลูกเพื่อลดความเสียหายในปีต่อไปrnrn