ส่งเสริมปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา สานพลังประชารัฐเพื่อเกษตรกร

ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกข้าว 70 ล้านไร่ ผลผลิต 32.63 ล้านตันข้าวเปลือก ตลาดมีความต้องการเพียง 30.88 ล้านตันข้าวเปลือกrnซึ่งเกินความต้องการไป 1.75 ล้านตันข้าวเปลือก และในภาคอุตสาหกรรมอาหารสัตว์rnมีความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 8 ล้านตัน แต่มีปริมาณผลผลิตในประเทศrn5 ล้านตัน และผลตอบแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สูงกว่าข้าวนาปรัง ดังนี้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ผลผลิตเฉลี่ยrn1,003 กก./ไร่ ต้นทุน 4,624.53 บาท/ไร่ กำไร 3,690.34 บาท/ไร่ ส่วนข้าวนาปรัง ให้ผลผลิตเฉลี่ย 666 กก./ไร่ ต้นทุน 4,895.17 บาท/ไร่ กำไรrn306.29 บาท/ไร่
rnrnนายนเรศ ฝีปากเพราะrnผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จ.เชียงใหม่กล่าวว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์rnได้ดำเนินงานโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาrnเป็นมิติใหม่ของการทำงานภาคการเกษตร โดยทุกหน่วยงานมีส่วนร่วมทำงานในระดับพื้นที่rnมีเกษตรกรเป็นศูนย์กลาง เพื่อปรับสมดุลปริมาณการผลิตการตลาดของข้าวและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์rnส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้มั่นคง ยั่งยืน และการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ใช้น้ำเพียงครึ่งหนึ่งของการปลูกข้าวrnอีกทั้งภาคอุตสาหกรรมอาหารสัตว์มีความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 8 ล้านตัน แต่มีปริมาณผลผลิตในประเทศrn5 ล้านตัน ซึ่งจะทำให้เกิดเสถียรภาพในการผลิตสินค้า ลดการพึ่งพาจากต่างประเทศrnโดยมีเกษตรกรเป้าหมายทั่วประเทศ 150,000 ครัวเรือน พื้นที่rn2 ล้านไร่ 33 จังหวัด และสำหรับในส่วนของภาคเหนือตอนบนrnจะดำเนินการส่งเสริมในพื้นที่เหมาะสม 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ลำพูน ลำปางrnน่าน แพร่และพะเยา
rnrnวิธีดำเนินการ
rnrn- ดำเนินการตามแนวทางประชารัฐrn
rnrn- มีการตกลงกับผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์และผู้รับซื้อผลผลิตrnโดยรับซื้อตามมาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์ ในราคากิโลกรัมละ 8 บาทrnที่ความชื้น 14.5% และราคากิโลกรัมละ 5-6 บาท ที่ความชื้น 25-30% โดยสหกรณ์การเกษตรทำหน้าที่เป็นจุดรวบรวม/รับซื้อผลผลิต และเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการผลิตอาหารสัตว์
rnrn- ส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่มและบริหารจัดการการผลิตตามระบบส่งเสริมการผลิตแบบแปลงใหญ่rn
rnrn- เจ้าหน้าที่และภาคเอกชนrn(บริษัทเมล็ดพันธุ์) ร่วมให้คำแนะนำด้านเทคโนโลยี/ถ่ายทอดความรู้การผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตลอดฤดูกาลผลิตตั้งแต่การปลูกrn– การเก็บเกี่ยว
rnrn- กรมชลประทานดูแลด้านการบริหารจัดการน้ำrn
rnrn- มีสินเชื่อเพื่อสนับสนุนปัจจัยการผลิตให้เกษตรกรrn
rnrn- มีประกันความเสี่ยงให้กับเกษตรกรเมื่อประสบภัยพิบัติrn
rnrn- คุณสมบัติของเกษตรกรrnที่จะเข้าร่วมโครงการ ต้องมีสัญชาติไทยrnบรรลุนิติภาวะและขึ้นทะเบียนเป็นหัวหน้าครัวเรือนในทะเบียนเกษตรกร(ทบก.01)rnของกรมส่งเสริมการเกษตร
rnrn-.ช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมในการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาrnพฤศจิกายน 2561 -15 มกราคม 2562
rnrnเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการrnติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้านท่าน
เรียบเรียงโดย : นายกุณฑลrnเทพจิตรา สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จ.เชียงใหม่ โทร.053-908666rnrnrnrnดาวน์โหลด
สสก. 6 จ.เชียงใหม่ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “การพัฒนาศักยภาพนักส่งเสริมก...
ข่าว/กิจกรรมส่งเสริมการเกษตร

วันที่ 1 - 2 ตุลาคม 2568 สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ จัดอบรมเชิงป...
สสก.6 จ.เชียงใหม่ ร่วมยกระดับชีวิตเกษตรกรแม่ฮ่องสอน“เพาะรักษ์ เพาะกล้า...
ข่าว/กิจกรรมส่งเสริมการเกษตร

วันที่ 30 กันยายน 2568 กรมส่งเสริมการเกษตร ได้จัดกิจกรรม “เพาะรักษ์ เพาะกล้า กาแฟดี ที่แม่ฮ...
ศปภ.6 ภาคเหนือ ประชุมทำแผนปฏิบัติการพื้นที่เขตควบคุมมลพิษภาคเหนือ...
ข่าว/กิจกรรมส่งเสริมการเกษตร

วันที่ 30 กันยายน 2568 ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์ภัยพิบัติด้านพืชที่ 6 ภาคเหนือ (ศปภ.6) ป...
กรมส่งเสริมการเกษตรร่วมต้อนรับร้อยเอกธรรมนัส หรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีแ...
ข่าว/กิจกรรมส่งเสริมการเกษตร

วันที่ 28 กันยายน 2568 นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายสามารถ เดชบุญ เกษตร...