กรมส่งเสริมการเกษตรขอแจ้งเตือนเกษตรกรrnในพื้นที่แนวชายแดนสาธารณรัฐสหภาพเมียนมา ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่rnเชียงรายและตาก ให้เฝ้าระวังการระบาดของหนอนกระทู้ fall armyworm (FAW) ในพื้นที่ปลูกข้าวโพด

rnrn

หนอนกระทู้ fall armyworm (FAW)rnชื่อสามัญ : fall armyworm ชื่อวิทยาศาสตร์ : Spodoptera frugiperda (J.E. Smith) อันดับ : Lepidoptera วงศ์ Noctuidaernหนอนกระทู้ fall armyworm เป็นศัตรูพืชสำคัญของข้าวโพดrnพบกระจายอยู่ทั่วไปในทวีปอเมริกา แพร่ระบาดเข้าสู่ทวีปแอฟริกาในปี 2559 และรายงานการระบาดในอินเดียในปี 2561

rnrn

วงจรชีวิตหนอนกระทู้ fall armyworm

rnrn

หนึ่งรอบวงจรชีวิตของหนอนกระทู้ fall armyworm ใช้เวลาประมาณrn30-40 วัน เมื่อผสมพันธุ์แล้ว เพศเมียจะวางไข่ในเวลากลางคืน โดยวางไข่เป็นกลุ่มใต้ใบพืชrnแต่ละกลุ่มจะมีไข่ประมาณ 100 – 200 ฟอง และมีขนสีน้ำตาลอ่อนปกคลุมrnเพศเมียหนึ่งตัววางไข่ได้ประมาณ 1,500-2,000 ฟอง ระยะไข่rn2-3 วัน หนอนมี 6 วัย ระยะหนอน 14-22 วัน หนอนที่โตเต็มมีขนาดลำตัวยาวประมาณ 3.2-4.0 ซม.rnหนอนจะทิ้งตัวลงดินเพื่อเข้าดักแด้ ระยะดักแด้ 7-13 วัน จึงออกเป็นตัวเต็มวัยและมีชีวิตอยู่ได้ 10-21 วันrnตัวเต็มวัยสามารถบินได้เฉลี่ย 100 กิโลเมตรต่อคืน

rnrn

ลักษณะการเข้าทำลาย

rnrn

การทำลายพืชเกิดขึ้นในระยะที่เป็นตัวหนอนเท่านั้นrnหนอนจะระบาดทำลายข้าโพดตั้งแต่อายุประมาณ 7rnวัน จนกระทั่งออกฝัก โดยกัดกินยอดและใบข้าโพดแหว่งหรือกัดกินทั้งแผ่นใบrnและจะพบตัวหนอนหลบซ่อนแสงอยู่ที่ยอดหรือโคนกาใบข้าวโพด ความเสียหาที่เห็นได้ชัดคือrnในระยะต้นอ่อนทำให้พืชตาย ระยะต้นแก่พืชจะไม่เจริญเติบโต ฝักลีบเล็กไม่สมบูรณ์ หากระบาดรุนแรงจะทำให้ผลผลิตเสียหายrn73% ของพื้นที่

rnrn

พืชอาหาร

rnrn

หนอนกระทู้ fall armyworm มีพืชอาหารมากกว่าrn80 ชนิด ซึ่งนอกจาข้าวโพดแล้ว ยังมีพืชอาศัยอื่นที่เป็นแหล่งอาหาร เช่นrnข้าว อ้อย ข้าวฟ่าง ข้าวสำลี มะเขือเทศ มันฝรั่ง ยำสูบ ฝ้าย ทานตะวัน กล้วย กระเทียมrnขิง มันหวาน พริกหยวก พืชวงศ์กะหล่ำ พืชวงศ์แตง พืชวงศ์ถั่ว พืชวงศ์หญ้า และพืชผักอีกหลายชนิดrn

rnrn

การจำแนกชนิดหนอนกระทู้ fall armyworm

rnrn

ระยะหนอน ส่วนบนของหัวมีแถบสีขาวเป็นรูปตัว Y หัวกลับ หลังและด้านข้างมีแถบสีขาวตามยาวลำตัวrnปล้องท้องก่อนปล้องสุดท้ายมีจุดสีดำ 4 จุด เรียงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสrnตัวเต็มวัยมีขนาด 3.2-4.0 ซม มีแถบสีขาวที่ขอบปีกคู่หน้า กลางปีกมีแถบลักษณะเป็นวงรีสีน้ำตาลrnเพศเมียมีสีและลวดลายจางกว่าเพศผู้

rnrn

การป้องกันกำจัด

rnrn

หากพบการทำลาย 20 % ในข้าวโพดต้นอ่อน (7-60 วัน) และ 40 % ในข้าวโพดต้นแก่rn(60 วัน-เก็บเกี่ยวผลผลิต) ให้ดำเนินการ หาวิธีป้องกันกำจัดที่เหมาะสม

rnrn

1.การใช้สารเคมี สารฆ่าแมลงrnสารฟลูเบนไดอะไมด์ (flubendiamide) 20% WG อัตรา 6 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารคลอแรนทรำนิลิโพรลrn(chlorantraniliprole) 5.17% SC อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำrn20 ลิตร หรือสารลอร์ฟีนาเพอร์ (chlorfenapyr) 10% SC อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตรrnหรือสารอินดอกซาคาร์บ (indoxacarb) 15% SC อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ควรพ่นสารฆ่าแมลงทุกrn7 วัน ติดต่อกัน 2-4 ครั้ง และต้องสลับกลุ่มสารทุกrn30 วัน (1 วงรอบชีวิต) เพื่อลดความต้านทานสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชของหนอนกระทู้rnfall armyworm

rnrn

2.การใช้ชีววิธี

rnrn

3. เชื้อแบคทีเรียบาซิลลัสทูริงเจนซิสrnสายพันธุ์ไอซาไว หรือสายพันธุ์เคอร์สตำกี้ (Bacillus thuringiensis var.rnaizawai, Bacillus thuringiensis var. kurstaki) ชนิดผง อัตรา 40-80 กรัม/ต่อน้ำrn20 ลิตร พ่นทุก 4-7 วัน เมื่อพบการระบาด

rnrn

4. แมลงหางหนีบ มวนพิฆาตrnและมวนเพชฌฆาต

rnrnนายนเรศ ฝีปากเพราะrnผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จ.เชียงใหม่ กล่าวว่าในส่วนของrn8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้กำหนด 3 มาตรการ ในการป้องกันกำจัดหนอนกระทู้ fall armyworm ได้แก่ มาตรการที่ 1rnการเฝ้าระวังก่อนเกิดการระบาด โดยสร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรrnดำเนินการสำรวจและรายงาน มาตรการที่ 2 การป้องกันและควบคุมการระบาด และมาตรการที่rn3 การให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดความrnเกษตรกรพบการระบาดให้รีบแจ้งสำนักงานเกษตรอำเภอและจังหวัดในพื้นที่rnเพื่อจะได้ดำเนินการต่อไปrnrnrnrn